skip to main
|
skip to sidebar
---นริศรา---
เน็ตไม่มีพิษมีภัย แต่อยู่ที่ใครจะใช้อย่างรู้คุณ
วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2550
ตัวอย่างการทำภาพ filter จากโปรแกรม photoshop
Glowing Edges
Stamp
Drak Strokes
Plaster
Graphic Pen
Emboss
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Love Me Love My Blog
เกี่ยวกับฉัน
นริศรา โพธิ์ขำ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน ชื่อ นริศรา โพธิ์ขำ ชื่อเล่น ยง ค่ะ ดีใจมากเลยที่สามารถสร้างบล็อกขึ้นมาได้ด้วยตนเอง และอยากให้เพื่อนๆ เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้กันบ้างนะคะ
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
ห่วงใย เข้าใจให้เกียรติกัน ..MY FAMILY
เพื่อนแท้คืออะไร
นิยามคำว่าเพื่อน
แม้นน้ำหมึกเขียนไปแล้วจางหาย
แต่น้ำใจของเพื่อนยังคงอยู่
แม้นน้ำลายพูดไปใจเอ็นดู
หรือจะสู้มิตรภาพอันยาวนาน
คำว่า "เพื่อน"เราไม่สามารถหามาได้ด้วยเงินทองแต่มันต้องแลกด้วยสิ่งต่างๆให้ชีวิตความรุ้สึก การให้ การเห็นใจ การไว้ใจ การที่เราจะหาเพื่อนดีๆสักคน มันไม่ได้มีขายในท้องตลาด มันไม่ได้แลกด้วยเงินทอง แต่มัน ต้องแลกด้วยความรู้สึกและมิตรภาพ คนในโลกนี้ไม่มีใครดีและไม่มีใครเลวทั้งหมดต่างคนก้อต่างมีความดีและความเลวอยู่ในตัวเอง การคบเพื่อนในสมัยนี้มองดูกันเพียงที่ฐานะสิ่งของนอกกายมีน้อยคนนักที่จะมองกันที่จิตใจ และเห็นความสำคัญของคำว่า"มิตรภาพ" ทำไมคนเราต้องมองคนที่ของนอกกาย แล้วความรู้สึกของเราล่ะ คุณเอาไปไว้ตรงไหน
เพื่อนๆ นักศึกษาวิชาเอกภาษาอังกฤษ
http://apiradiam@gmail.com
http://doraemai.blogspot.com
http://sukunya_tay@yahoo.com
http://kaeprakhon.blogspot.com
http://yuwadeeenglish.blogspot.com
http://thidaratee.blogspot.com
http://starteacher1984.blogspot.com
http://somkitenglish.blogspot.com
http://siripim.blogspot.com
http://sirinapa1985.blogspot.com
http://sirigate.blogspot.com
http://rungnapha.blogspot.com
http://pondpui.blogspot.com
http://ploipairin.blogspot.com
http://pannipa9.blogspot.com
http://panit.blogspot.com
http://narissaraenglish.blogspot.com
http://lamai.blogspot.com
http://kritsanaphol.blogspot.com
http://kitiyapornenglish.blogspot.com
http://am_eng@hotmail.com
http://kanok-orn.blogspot.com
http://kamonpatgift.blogspot.com
ความรักนี้เพื่อใครกันแน่
รักพ่อ รักแม่ รักเพื่อน รักแฟน แต่ที่แน่ๆ อย่าลืมรักตัวเอง
50 นิยามของความรักในเเต่ละอารมณ์ของคนเรา
1.ความรักคือ โชคอย่างหนึ่งเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีได้
2.ความรักเป็นได้ทั้งมือเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ
3.ความรักคือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างนึง
4.ความรักคือ ความหวัง กำลังใจ เเละศรัทธาในกันเเละกัน
5.ความรัก มีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเเต่มีความสุขใน สิ่งที่เรารักต่างหาก
6.ความรักคือ ศิลปะ ที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
7.ความรักคือ โอกาส ที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง
8.ความรักคือ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่ ทำให้คนโง่กลายเป็นคนฉลาด 9.ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก
10.ความรัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไปพร้อมๆกัน
11.ความรักทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆของชีวิต
12.ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิตเพราะทุกคืนที่ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว
13.ความรักคือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
14.ความรักที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที
15.ความรักจะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีที่รัก
16.ความรักกว่าจะพบเจอได้นั้นเเสนยากอย่าให้มันจบสิ้นเพียววันเดียว
17.ความรักสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่าที่กำลังคุโชน
18.ความรักต่อให้บอกกันทุกวันว่ารักก็ไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอกเเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่อยากได้ยินอีกต่อไป
19.ความรักถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใดก็ไม่สามารถรักกันได้
20.ความรักสามารถให้อภัยกันได้เสมอโดยไม่มีเงื่อยไขว่ากี่ครั้ง
21.ความรักรักได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
22.ความรักอยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามคำพยากรณ์ได้
23.ความรักคือสิ่งแปลกใหม่ที่จะทำให้มุมมองของคุณเปลี่ยนไปจากเดิม
24.ความรักทำให้คุณอยู่นิ่งๆเงียบๆได้นานกว่าเดิม
25.ความรักคือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟในหัวใจ
26.ความรักคือการเริ่มคิดเป้าหมายเเห่งชีวิต
27.ความรักคือการร่วมฝัน ร่วมปันใจเเละก้าวไปในชีวิต
28.ความรักคือการอยู่เคียงข้างกันเสมอไม่ว่าอีกฝ่ายจะตกต่ำเพียงใด
29.ความรักไม่ว่าจะเป็นเเบบไหนยังไงมันก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
30.ความรักเป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สัมผัสไได้ด้วยหัวใจ
31.ความรักทำให้วันเลวร้ายไม่เป็นวันเลวร้ายที่สุด
32.ความรักทำให้วันที่เเสนเศร้ากลายเป็นวันที่สุขที่สุดได้
33.ความรักเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถจะหาได้ง่ายตามท้องถนน
34.ความรักทำให้อะไรดีงามได้เสมอ
35.ความรักที่รีบร้อนมักจะพบกับจุดสิ้นสุดได้รวดเร็วเสมอ
36.ความรักคือสิ่งที่เเม้จะทำความเจ็บปวดให้เเต่ก็ไม่มีใครที่กลัวหรือเกลียดชัง ความรัก
37.ความรักไม่ได้จบลงเเค่การเเต่งงานหรือมีSEXเท่านั้น
38.ความรักคือสิ่งที่คุณจะพบได้เองโดยมิต้องเเสวงหา
39.ความรักคือสิ่งที่ยืนยาวกว่าชีวิตคนคนนึง
40.ความรักส่วนมากมักจะเติบโตมาจากความเป็นเพื่อนเเละมักจะยืนยาวเสมอ
41.ความรักในยามเเรกรักคือช่วงเวลาของรักที่หวานหอมมากที่สุด
42.ความรักครั้งเเรกเเละครั้งสุดท้ายมักจะเป็นรักในตนเอง
43.ความรักทำให้คนกลายเป็นกวี
44.ความรักไม่ใช่การมองตากันเเต่เป็นการมองไปในทิศทางเดียวกัน
45.ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่มีคำว่าสายไป
46.ความรักคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ
47.ความรักทำให้ทุกอย่างสว่างเเละสดใส
48.ความรักคือการพึงพอใจในสิ่งที่รัก
49.ความรักจะมีคุณค่าได้ต่อเมื่อคนที่รักต้องให้เกียรติ์ซึ้งกันเเละกัน
50.ความรักบางทีก็เป็นสะพานทอดไปสู่การเเต่งงาน
http://www.saranair.com/article.php?sid=2407
ผลงานจากการอบรม
สาระน่ารู้
คิดอย่างไรไม่เครียด
เครียด
เป็นภาระที่ทุกคนไม่อยากประสบพบพาน แต่คงไม่มีใครที่ไม่เคยเครียด ดังนั้นมาทำความรู้จักกับความเครียด และวิธีการคิดเพื่อที่จะได้ไม่เครียดกันดีกว่า
ความเครียด
เป็นเรื่องของร่างกายและจิตใจ ที่เกิดจากการตื่นตัวเตรียมรับกับสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นเรื่องที่เกิดกำลังความสามารถที่จะแก้ไขได้ ทำให้รู้สึกหนักใจ เป็นทุกข์และส่งผลทำให้เกิดอาการผิดปกติ ทั้งทางร่างกายและจิตใจตามไปด้วย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเครียดมี 2 ประการคือ
1. สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม ปัญหาการปรับตัว ปัญหาการเรียน ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้ล่วนเป็นตัวกระตุ้นอย่างดีที่จะทำให้เกิดความเครียดได้
2. การคิดและการประเมินสถานการณ์ของบุคคล จะสังเกตได้ว่าคนที่มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ใจเย็น จะมีความเครียดน้อยกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้าย เอาจริงเอาจัง ใจร้อนและวู่วาม
จากสาเหตุที่สำคัญนี้ ความเครียดจะไม่เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่จะเกิดจากทั้งสองสาเหตุประกอบกันคือ มีสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นตัวกระตุ้น แล้วมีความคิดและการประเมินสถานการณ์เป็นตัวบ่งว่าจะเครียดมากเครียดน้อยเพียงใด
เมื่อปัญหากระตุ้นให้เกิดความเครียด การลดความเครียดจึงจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีคิดที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งวิธีคิดที่เหมาะสมได้แก่
1. คิดในแง่ยืดหยุ่นให้มากขึ้น อย่าเอาจริงเอาจัง เข้มงวดจับผิด
2. คิดอย่างมีเหตุผล ไม่ด่วนเชื่ออะไรง่าย ๆ ไม่ด่วนสรุปอะไรง่าย ๆ ให้พยายามใช้เหตุผลตรวจสอบข้อเท็จจริง ความเป็นไปได้
3. คิดหลาย ๆ แง่มุม มองหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านดีและไม่ดี พึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกอย่างมีข้อดีและข้อไม่ดีประกอบกันทั้งสิ้น
4. คิดแต่เรื่องดี ๆ เพราะหากว่าเราคิดแต่เรื่องร้าย ๆ ก็จะทำให้เครียดมากขึ้น ควรคิดถึงเรื่องดี ๆ ให้มาก ๆ นอกจากไม่ทำให้เครียดแล้วยังทำให้สบายใจมากขึ้นด้วย
5. คิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น เปิดใจให้กว้างรับรู้ความรู้สึกและความเป็นไปของคนอื่นและคนใกล้ชิด
ลัชดา สมญาติ (เจ้าหน้าที่เวชสถิติ 5)
ที่มา:
http://www.watpon.com/news/seri.htm
coffee
คาแฟอีนในเครื่องดื่ม
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จาก ผลิตภัณฑ์กาแฟบรรจุกระป๋องที่วางจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อ การโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ในปัจจุบันพยายามสร้างแรงจูงใจให้วัยรุ่นเข้าใจว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่สามารถผูกใจ เพื่อนชาย-หญิงของวัยรุ่นได้ เช่นเดียวกับการโฆษณาเพื่อสร้างค่านิยมในการดื่มน้ำอัดลม บางชนิดในกลุ่มวัยรุ่น โดยเน้นว่าเป็นเครื่องดื่มของคนรุ่นใหม่ การดื่มกาแฟจะทำให้ ร่างกายได้รับสารชนิดหนึ่งที่สำคัญ คือ คาเฟอีน สารคาเฟอีนนี้นอกจากจะมีในกาแฟแล้ว ยังพบในชา โกโก้ และเมล็ดโคลา คาเฟอีนเป็นสารที่มีฤทธิ์ ต่อร่างกายหลายประการ เช่น กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่ม ที่มีคาเฟอีนจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่ากระตุ้นประสาทส่วนกลางทำให้รู้สึกตื่นตัวไม่ ง่วงนอน กระตุ้นการหลั่งของกรดเกลือในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน เป็นผลให้มีการขับถ่ายแคลเซียมออกจากร่างกายเพิ่มขึ้นด้วย ในทางตรงกันข้าม ในคนที่ไวต่อ ฤทธิ์ของคาเฟอีนหรือได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้มีอาการใจสั่น มือสั่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย และปวดท้อง
วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการแคลเซียมในปริมาณสูงเพื่อนำไปสร้างกระดูก เนื่องจากเป็น วัยที่ร่างกายยังมีการเจริญเติบโตด้านความสูงอีกช่วงหนึ่งของชีวิต การดื่มเครื่องดื่มที่มี คาเฟอีนในปริมาณมากเป็นประจำอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเสริมสร้างความสูง และ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไปนานๆ จะมีอาการติดสารคาเฟอีน คือ ถ้าไม่ได้ดื่มจะรู้สึก เฉื่อยชา ไม่กระตือรือล้น หรือรู้สึกเหนื่อยล้า วัยรุ่นที่มีความเคร่งเครียดในระยะที่ต้อง ดูหนังสือหรือทำกิจกรรมมากๆ ถ้ามีอาการเหนื่อยล้า แสดงว่า ร่างกายต้องการที่จะได้ พักผ่อน การหาทางออกด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกาย ทำงานต่อไป จะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากขึ้นและมีผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
ข้อมูลจาก...กระทรวงสาธารณะสุข
http://www.siamswim.com/knowleage/anamai15.html
โจ๊กซอย
อาหารเช้ากับการเรียน
คนส่วนใหญ่นิยมกินอาหารวันละ 3 มื้อ แต่บางคนอาจจะกินเพียงวันละ 2 มื้อ หรือมากกว่านี้ ในคนที่กินอาหารเพียง 2 มื้อ มักจะงดเว้นมื้อเช้า ด้วยเหตุผลต่างๆกัน เช่น ต้องตื่นแต่เช้าเร่งรีบไปเรียนหรือทำงาน ใช้เวลาในการเดินทางนาน ไม่มีเวลาพอ สำหรับการเตรียมอาหารเช้า และบางคนงดกินอาหารเช้าด้วยเหตุผลที่ต้องการลด น้ำหนัก การงดรับประทานอาหารมื้อเช้า จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อาจทำให้ร่างกายได้รับ พลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากกระเพาะ อาหารของคนเรามีขนาดความจุที่จำกัดสำหรับการกินอาหารแต่ละครั้งโดยเฉพาะ ในเด็กวัยเรียนซึ่งมีขนาดของกระเพาะอาหารเล็กกว่าผู้ใหญ่ ในขณะที่ความต้องการ พลังงานและสารอาหารต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยที่ยังมีการ เจริญเติบโต จึงจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ
โดยปกติคนเราจะพักผ่อนด้วยการนอนหลับวันละประมาณ 8-12 ชั่วโมง ในช่วง เวลานี้การใช้สารอาหารต่างๆ จะยังดำเนินไปตลอดเวลา ปริมาณสารอาหารต่างๆ โดยเฉพาะระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงหลังจากที่เราพักผ่อนนอนหลับ จึงจำเป็นต้อง กินอาหารเพื่อเพิ่มระดับสารอาหารในร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติสำหรับการทำ กิจกรรมต่อไป การงดไม่กินอาหารเช้าในเด็กนักเรียน ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำจึงพบว่า ในช่วงสายของวันเด็กจะรู้สึกหิว กระสับกระส่าย ไม่มีสมาธิในการเรียนขาดความฉับไว ในการคิดคำนวณหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เกิดการผิดพลาดได้มากกว่า และผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนจะด้อยกว่าเด็กที่รับประทานอาหารเช้า ทั้งนี้เนื่องจาก สมองของคนเรา ต้องการน้ำตาลกลูโคสเพื่อไปหล่อเลี้ยง นอกจากนี้เด็กจะไม่มีกำลัง สำหรับการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายอีกด้วย อาหารเช้าจึงเป็นมื้อที่มีความสำคัญ ยิ่งสำหรับเด็กวัยเรียน และวัยรุ่น อาหารเช้าที่เหมาะสมควรประกอบด้วยอาหารที่มีโปรตีนสูงพอควรทั้งนี้เพื่อ คงสภาวะระดับน้ำตาลในเลือดของเด็กให้สูงอยู่เป็นเวลา ที่ยาวนาน จะทำให้เด็กมี ความสามารถในการเรียนรู้และประกอบกิจกรรม ที่ต้องใช้กำลังงานได้ดีขึ้น
ข้อมูลจาก...กระทรวงสาธารณะสุข
อยากสุง...ทำอย่างไรดี
ความสูงเป็นสิ่งที่วัยรุ่นปรารถนา นอกจากนี้ ความสูงเป็นสิ่งต้องการ สำหรับการเล่นกีฬาและการประกอบอาชีพบางอย่าง ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่จะทำให้ สูงได้ตามศักยภาพของพันธุกรรมอีกช่วงหนึ่งของชีวิต โดยทั่วไป วัยรุ่นหญิงจะหยุด สูงเมื่ออายุประมาณ 17 ปี และวัยรุ่นชายจะหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 19 ปี
โภชนาการมีความสำคัญยิ่งต่อการช่วยพัฒนาความสูง ถ้าเลยวัยนี้แล้ว จะไม่ สามารถทำให้สูงได้ตามต้องการ เพื่อให้ร่างกายสูงขึ้นดังปรารถนา การกินอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ ที่สมดุลและมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกายจึงมีความ สำคัญมาก สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างความสูง ได้แก่ สารอาหารโปรตีน ซึ่งสำคัญสำหรับสร้างเนื้อเยื่อเพื่อเป็นฐานโครงสร้างของกระดูกโปรตีนที่ได้จากอาหาร จะต้องเป็นโปรตีนคุณภาพดีซึ่งจะได้จากเนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ และนม สารอาหารที่สำคัญ อีกชนิดหนึ่งก็คือแคลเซียม ซึ่งวัยรุ่นต้องการในปริมาณที่สูงมาก เมื่อเทียบกับวัยอื่นๆ พบว่า เด็กวัยเรียนและวัยรุ่นที่ไม่ดื่มนม จะได้รับแคลเซียมจากอาหารประมาณ 1 ใน 3ของ ความต้องการใน 1 วัน การดื่มนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้วจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากการ กินอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการดังกล่าวแล้ว การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา เป็นประจำ และการหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนสำหรับ การเจริญเติบโตช่วยพัฒนาความสูงให้เป็นไปตามปกติ และพบว่า กีฬาประเภทที่มีการยืด ตัว เช่น ว่ายน้ำ บาสเกตบอล และโหนบาจะช่วยพัฒนาความสูงได้ดีกว่า กีฬาประเภทอื่นๆ
ข้อมูลจาก...กระทรวงสาธารณะสุข
โรคงอน
+_+ งอน +_+
สมมุติฐาน --
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแล้วว่า อาการ งอน เป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง สามารถติดได้อย่างรวดเร็วและขยายเป็นวงกว้างในแนวราบ ขณะนี้ยังไม่มีการค้นพบวัคซีน หรือยารักษาที่มีประสิทธิภาพ และไม่พบหลักฐานที่แน่นอนว่าผู้ใดนำมาปล่อย หรือเป็นพาหะนำโรค
อาการ --
ผู้ป่วยจะมีอาการหน้างอ ปากยื่น ไม่ยอมพูดจา บางรายที่อาการหนัก จะมีอาการหน้าดำแทรกอยู่ด้วย หูแข็ง ฟังอะไรก้อขัดหูขัดใจไปหมด ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยแต่พองาม โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น ควบคุมการกวัดแกว่งของมือไม่ได้มักจะเหวี่ยงแปะปะไปตามหลัง หรือหน้าของคนที่อยู่ใกล้ (มักเป็นชายหนุ่มที่เรียกว่าแฟน) ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ ร้องไห้โฮโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการจะอยู่นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อที่ได้รับ และความคุ้นเคยกับโรคของตัวผู้ป่วยเอง
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น --
ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก จะทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้
สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก --
ผู้ง้อ ควรได้รับการฝึกสอนเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการง้อเป็นพิเศษ เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย ต้องการความเอาใจใส่อย่างมาก ผู้ง้อจึงจำเป็นต้องมีความอดทนสูงมากๆมีวาจารื่นหู มีร่างกายแข็งแรง ทนทานต่อการหยิกหรือข่วน และควรมีของขวัญแก้ตัวติดไม้ติดมือมาด้วย ขอแนะนำให้เป็ฯดอกไม้ อาการของผู้ป่วยจะดีขึ้นเกินคาด
การดูแลในภายหลัง --
ผู้ป่วยที่หายแล้ว ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจอย่างเต็มที่ หากความรักและความเข้าใจลดน้องลงเมือไหร่ อาการงอนจะกำเริบทันที
คำแนะนำ --
เชื้อที่ได้รับยังไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ ผู้ป่วยจึงสามารถขุดคุ้ยสาเหตุของโรคขึ้นมางอนได้เรื่อยๆ ผู้รักษาจึงควรระวังตัวอยู่เสมอ
หมายเหตุ -- โรคนี้มักพบมากในกลุ่มคนที่มีความสวยและความน่ารัก สำหรับผู้ที่ไม่สวย และไม่น่ารัก จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ น่ารำคาน ผู้รักษาสามารถปล่อยไปตามยถากรรม ไม่จำเป็นต้องมีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าอาการจะหาย หรือตายไปเอง
ข้อสังเกต
--
จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่หน้าตาดีจะติดเชื้อโรคนี้ได้ง่ายกว่าผู้ป่วยหน้าตาธรรมดา และหากไม่รีบรักษา ผู้ป่วยมักจะรักษาตัวเองด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า -กิ๊ก- ส่วนผู้ป่วยที่หน้าตาธรรมดามักมีภูมิคุ้มกันในตัวเอง หากไม่มีการรักษาจะหายงอนได้อย่างหน้าอัศจรรย์
ที่มา:
http://opal-ka-amp.spaces.live.com/default.aspx?partner=Live.Spaces&mkt=en-US
ท่องเที่ยวไปในเมืองไทย
"เที่ยวไทย...กำไรจัง"
มาท่องเที่ยวเพื่อเสาะแสวงหาสีสันบรรยากาศใหม่ๆ ข้อมูลความรู้ใหม่ๆ ทั้งทางด้านธรรมชาติ ภูมิปัญญา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ฯลฯ กันเถอะเพราะนอกจากเราจะได้ท่องเที่ยวแบบเกิดประโยชน์ทั้งแก่ตัวคนเที่ยวและประเทศชาติแล้ว เรายังเก็บเกี่ยวเนื้อหาสาระและวิสัยทัศน์ใหม่ๆ กลับมาเป็นกำไรของชีวิตได้อีกด้วย แล้วถ้าอยากรู้ว่า เที่ยวแล้วจะได้กำไรเช่นไร ก็ลองไปเที่ยวกันดู
คลังบทความของบล็อก
▼
2007
(9)
►
ตุลาคม
(1)
▼
กันยายน
(7)
วิธีการสร้างบล็อก
การเรียนโปรแกรม photoshopPhotoshop เป็นโปรแกรมในต...
ตัวอย่างการทำภาพ filter จากโปรแกรม photoshop
การออกแบบสื่อวัสดุกราฟิก
หลักการออกแบบการออกแบบที่ดีควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้...
ตัวอย่างวัสดุกราฟิก
สื่อวัสดุกราฟิก "สีไม้"
►
สิงหาคม
(1)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น